โมกบ้าน
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่อสามัญ : โมกบ้าน
ชื่ออื่นๆ : ปิดจงวา(เขมร สุรินทร์) โมกซ้อน(กลาง) โมกบ้าน(กลาง) หลักป่า(ระยอง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะวิสัย : ไม้พุ่ม ยอดทรงพุ่ม รูปไข่ ความสูง 1.20 เมตร ความกว้างทรงพุ่ม 0.8 เมตร เป็นพืชบกลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงเองได้ เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลออกเทา มีรูอากาศกระจายทั่ว ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็ก ๆ สีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นไม่เป็นระเบียบใบเป็นใบเดียวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบ กิ่งอ่อนมีขนอ่อนปกคลุม มีน้ำยางสีขาวขุ่น ชนิดของใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียว ขนาดแผ่นใบกว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 5.5 เซนติเมตร เส้นใบมีสีเขียวเข้ม การเรียงตัวของใบบนกิ่งเป็นแบบตรงข้าม ใบรูปรี ปลายใบเรียวแหลมรูปลิ่มขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกช่อกระจุกแยกแขนง ออกดอกที่ซอกใบ กลีบเลี้ยง โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก สีเขียวอ่อน กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปดอกเข็ม เกสรตัวผู้ จำนวน 5 อัน เชื่อมติดกับโคนกลีบดอก อับละอองเรณูสีขาว ปลายน้ำตาลอ่อนเรียวแหลมแบนคล้ายหอกหุบแตะกันบริเวณปลาย เกสรตัวเมีย จำนวน 1 อัน เป็นหลอดเรียวยาวสีขาว ปลายยอดเกสรตัวเมียสีครีมตูมแหลม รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มีกลิ่นหอม ผลแห้งแก่แล้วแตกจากกันตามแนวยาว ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ผลแก่สีน้ำตาล ออกเป็นคู่ รูปร่างเรียวยาวปลายแหลมโค้งเข้าหากัน ผิวของผลมีรอยรูอากาศทั่วไป จำนวนเมล็ด 10 เมล็ด รูปร่างเมล็ดคล้ายเมล็ดถั่ว
สภาพนิเวศน์ : อยู่บนบก กลางแจ้ง
การกระจายพันธุ์ : ชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น ใกล้น้ำ
แหล่งที่พบ : สวนวรรณคดี หลังอาคาร 3
ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ
สรรพคุณอื่นๆ
- รากใช้รักษาโรคผิวหนัง เรื้อน คุดทะราด แก้พิษสัตว์กัดต่อย
- ใบใช้ขับน้ำเหลือง
- ดอกเป็นยาระบาย
- เปลือกเป็นยาช่วยให้เจริญอาหาร รักษาโรคไต
- ยางจากต้นช่วยรักษาโรคบิด
การปลูก
การปลูกมี 2 วิธี
การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-18 นิ้ว
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก :ขุยมะพร้าว:ดินร่วนอัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางบ้างแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่มและการเจริญเติบโตของทรงพุ่ม และควรเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพไป
การดูแลรักษา
- แสง ต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
- น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
- ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง
- ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธุ์
การตอน การเพาะเมล็ด การปักชำ วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด การปักชำ
โรคและศัตรู
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ความเชื่อ
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์เพราะโมกหรือโมกหมายถึงผู้ที่หลุดพ้นด้วยทุกข์ทั้งปวง สำหรับส่วนของดอกก็มีลักษณะ สีขาว สะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดวัน นอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองปกป้องภัยอันตรายเพราะต้นโมกบางคนเรียกว่าต้นพุทธรักษาดังนั้นเชื่อว่าต้นโมกสามารถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งปวงจากภายนอกได้เช่นกัน และยังเชื่ออีกว่าส่วนของเปลือกต้นโมกสามารถใช้ป้องกันอิทธิฤทธิ์ของพิษสัตว์ต่างๆ ได้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นโมกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%81
https://sites.google.com/site/mandarin6955/mok
http://www.mculture.in.th/album/190361/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5
http://info.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=29&id=5182#